วิธีการเลือกซื้อปั๊มลมฟูเช็ง
ปั้มลมฟูเซ็งนั้นเป็นเครื่องมือที่จำเป็นต่ออุตสาหกรรมหลายชนิด เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มาช่วยในการทำงานของเราได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เครื่องปั้มลมฟูเซ็งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับอุปกรณ์ต่างๆในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างมากมาย เข้าไปช่วยในรูปแบบงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปืนลม เครื่องมือช่วยในการทำงานกับคอนกรีต, ไขควงลม, เครื่องยิงประตูลม เป็นต้น เครื่องปั๊มลมนั้น ส่วนใหญ่แล้วค่อนข้างจะนิยมใช้งานกันในส่วนงานของอุตสาหกรรม มักจะถูกนำเป็นตัวส่งพลังงานคอยขับเคลื่อน เครื่องจักรต่างๆ ให้ทำงานได้เป็นอย่างดี และรวมถึงธุรกิจส่วนตัวไม่ว่าจะเป็น อู่ซ่อมรถ อู่ทำสีรถ คาร์แคร์ล้างรถ เป็นต้น ซึ่งโดยรวมแล้วนั้น เราจะสามารถนำเครื่องปั๊มลมแรงดันสูงไปใช้งานได้หลายส่วน เพียงแค่ผู้ใช้งานต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของงาน หรือความปลอดภัยเป็นหลักเท่านั้นก็พอ และวันนี้เราก็จะแนะนำท่านเพื่อเลือกใช้ ปั๊มลมฟูเซ็ง ซึ่งเป็นปั๊มลมลูกสูบ อีกทั้งยังมีวิธีการรักษา เพื่อท่านจะได้นำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้กับ ปั๊มลมฟูเซ็ง ได้อีกด้วย
ปั๊มลมในท้องตลาดมีแบบไหนบ้าง?
1. ปั๊มลมฟูเช็งแบบลูกสูบ
เป็นเครื่องปั๊มลมที่เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากว่าเป็นระบบสายพาน สามารถปรับการปั๊มพลังงานได้ตั้งแต่ ระดับ 1-1,000 เรียกได้ว่าใช้งานได้ง่ายๆ อีกทั้งยังสามารถปั๊มลูกสูบได้ตั้งแต่ในระดับต่ำ ระดับกลางไปจนถึงในระดับที่สูงที่สุดได้อีกด้วยนั่นเอง
วิธีการเลือกเครื่องปั๊มลมฟูเช็งแบบลูกสูบ
- ต้องไม่มีตัว สเตเตอร์มอเตอร์ที่ขนาดเล็กจนเกินไป เพื่อจะทำให้เครื่องปั๊มลมนั้นมีประสิทธิภาพในขั้นสูงนั่นเอง
- ในส่วนของท่อส่งลมในการเข้าถังนั้นต้องมีตัวระบายความร้อนจะช่วยทำให้เครื่องปั๊มลมนั้นทำงานได้ดียิ่งขึ้น
2. ปั้มลมแบบสกรู
ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้งานกันในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นจำนวนมากเลยนั่นเอง เนื่องจากว่าตัวเครื่องนั้นจะมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงมาก แต่จะต้องใช้ตัวระบายความร้อนหรือใช้น้ำในการระบายความร้อนด้วย ถ้าเป็นเครื่องขนาดใหญ่สามารถมีการทำงานในระดับสูงสามารถจ่ายพลังงานลมได้ถึง 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) เลยล่ะ
วิธีการเลือกเครื่องปั๊มลมแบบสกรู
- ต้องมีเพลาตัวผู้และเพลาตัวเมียที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากว่าเครื่องปั๊มลมแบบสกรูนั้นจะทำงานร่วมกันด้วยพลังงานที่หนักเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมโรงงานนั่นเอง
- ต้องมีระบบในการระบายความร้อนที่ดีเพื่อช่วยในการทำงานของเครื่อง เพราะตัวเครื่องมีขนาดใหญ่และใช้พลังงานในการทำงานค่อนข้างสูง
3. ปั๊มลมแบบไดอะเฟรม
เครื่องปั๊มลมชนิดนี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ในอุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมอาหารนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมต่างๆเหล่านี้จะต้องมีการทำงานที่ละเอียดเป็นอย่างมาและแน่นอนเลยว่าตัวเครื่องนั้นจะมีการทำงานที่ค่อนข้างเงียบเลยทีเดียว เพื่อความเหมาะสมของการใช้งาน ในส่วนของการทำงานนั้นลูกสูบและหัวดูดอากาศจะมีการทำงานที่แยกออกจากกัน ดังนั้นในส่วนของการทำงานจึงจะไม่มีการสัมผัสโดนโลหะแต่อย่างใดนั่นเอง
วิธีการเลือกเครื่องปั๊มลมแบบไดอะเฟรม
ในการเลือกซื้อก็คือต้องมีแผ่นไดอะแฟรมที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก เพราะจะใช้เป็นตัวในการดูดอากาศ และเป็นตัวช่วยให้เครื่องทำงานอย่างเต็มไปด้วยมีประสิทธิภาพขั้นสูง
4. ปั๊มลมแบบใบพัดเลื่อน
เครื่องปั๊มลมแบบใบพัดเลื่อนนั้นมีข้อดีอย่างมากในการทำงานนั่นก็คือไม่มีเสียงในการปั๊มพลังงานลม การทำงานจำสม่ำเสมอคงที่เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เครื่องปั๊มลมแบบใบพัดเลื่อนจะสามารถทำการกระจายลมได้ตั้งแต่ 4-100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที และมีการทำงานในส่วนของความดันได้ถึง 4-10 บาร์
วิธีการเลือกเครื่องปั๊มลมแบบใบพัดเลื่อน
ต้องมีการทำงานของโรเตอร์ใบพัดได้อย่างเต็มที่ ให้ผู้ซื้อไปทำการเลือกดูในส่วนของโรเตอร์ใบพัดให้ดีว่ามีลักษณะที่หรือป่าวในการทำงาน ปั๊มลมพลังงานทั้ง 4 ตัวนี้ก็จะเป็นปั๊มลมที่เรานั้นได้นำมาแนะนำกับทุกๆท่านให้ได้รู้กันถึงการทำงานและวิธีในการเลือกซื้อหามาใช้กันนั่นเอง ก็ต้องบอกก่อนเลยว่าต้องมีการตรวจสอบคุณภาพให้ดีๆก่อนที่จะซื้อมาใช้ เนื่องจากว่าจะได้ใช้ให้เหมาะสมกับส่วนงานต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยล่ะ อีกทั้งเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่างๆตามมานั่นเอง
9 ขั้นตอนวิธีการบำรุงรักษาปั๊มลมฟูเช็ง
- ให้ทำการตรวจสอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆให้ดี ให้ทำการเช็คและตรวจสอบน็อตทุกตัวอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น น๊อตยึดมู่เล่ย์, น๊อตยึดมอเตอร์ เป็นต้น
- เช็คในส่วนของการทำงานสายพานและการติดตั้งอุปกรณ์อยู่สม่ำเสมอ ให้ทำการกดลงไปกึ่งกลางสายพานแบบเบาๆไม่ให้สายพานนั้นตึงจนเกินไป
- ต้องทำการติดตั้งกรองอากาศก่อนใช้งานปั๊มลมทุกครั้ง ให้ระวังในเรื่องของการติดตั้งกรองอากาศในที่ๆไม่สามารถทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ
- ตรวจดูระดับน้ำมันเครื่อง (ที่หัวปั๊ม) ต้องทำการตรวจสอบในส่วนของน้ำมันให้อยู่ตรงส่วนของตาแมวอยู่เสมอ
- ควรเปิดเครื่องทำงานทุกวันถึงแม้ไม่ได้ใช้งานก็ตาม
- ถ่ายน้ำใต้เครื่องปั๊มลมให้ได้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
- ติดตั้งปั๊มลมในที่ปลอดภัยไม่มีอันตรายต่อตัวเครื่อง
- เมื่อเครื่องทำงานครบ 500 ชั่วโมงแล้วให้ทำการถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆครั้ง
- ต้องมีการตรวจสอบตัวเครื่องอยู่เสมอเมื่อทำงานเสร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเกิดปํญหาตามมา
